วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แมงมุมปูขี้นก


แมงมุมปูขี้นก


    
                                                  
แมงมุมปูขี้นก (อังกฤษBird dung crab spider ) จัดเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง อยู่ในไฟลัมArthropoda ชั้น Arachnida อันดับ Araneae เป็นแมงมุมที่มีลักษณะคล้ายปูขนาดเล็ก มีลำตัวค่อนข้างกว้างและแบน ขาทั้ง 4 คู่ยื่นออกไปทางด้านข้างของลำตัว โดยขาสองคู่หน้ามีขนาดใหญ่และยาวกว่าขาสองคู่หลัง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสีค่อนข้างอ่อนหรืออาจมีสีที่ใกล้เคียงกับพื้นหลัง ทั้งนี้เพื่อเป็นการพรางตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม แมงมุมกลุ่มนี้จะไม่สร้างใยเพื่อดักจับเหยื่อ แต่จะซุ่มโจมตีเหยื่ออยู่บริเวณดอกไม้ ใบไม้ พื้นดิน เป็นต้น 
แมงมุมปูขี้นกนั้นจัดอยู่ในสกุล Phrynarachne ซึ่งถูกค้นพบบริเวณแถบเอเชียและแอฟริกาเป็นส่วนใหญ่ พบแล้วประมาณ 30 ชนิด ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีรายงานการศึกษาในสกุลนี้ค่อนข้างน้อย 
แมงมุมปูขี้นก ถือเป็นสิ่งชีวิตที่ประสบความสำเร็จในการพรางตัวมากที่สุดตัวหนึ่ง เนื่องจากร่างกายของมันมีรอยเปื้อนก้อนเล็กๆขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งทำให้มันมีลักษณะเหมือนขี้นกที่สดใหม่ นอกจากนี้มันยังเพิ่มการเลียนแบบขี้นก โดยการอยู่บนใยสีขาวที่มันสร้างขึ้นมา เอาขาแนบชิดกับลำตัวและไม่แสดงการเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นเกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นรอยเปื้อนของขี้นกที่อยู่บนใบไม้และเพื่อเป็นการป้องกันตัวจากการถูกจับกินโดยศัตรู
แมงมุมปูขี้นกสามารถสร้างกลิ่นและปล่อยกลิ่นที่เหมือนกับกลิ่นของอุจจาระหรือปัสสาวะได้ ซึ่งวิธีการสร้างกลิ่นนี้ถือเป็นวิธีการที่ฉลาดมากในการดึงดูดแมลงบางกลุ่ม เช่น แมลงวัน ให้เข้ามาและหลังจากนั้นมันก็จะโจมตีเหยื่อทันที
อ้างอิง : wikipedia


แมงมุม

       

แมงมุม


                        
                           
                                                              
             
               แมงมุม (อังกฤษ: Spider) จัดเป็นสิ่งมีชีวิตพวกสัตว์ขาปล้อง หรืออาร์โธพอด เช่นเดียวกับแมลง, กิ้งกือ, ปู เป็นต้น จัดอยู่ในอันดับ Araneae (/อา-รัค-เน/) มีรูปทรง ลักษณะ และขนาดแตกต่างหลากหลายกันออกไป บางชนิดมีลำตัวที่กว้างมาก บางชนิดมีรูปร่างที่เพรียวยาว ขณะที่บางชนิดกลับมีรูปร่างที่คล้ายกับสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตประเภทอื่น เช่น มด หรือปู เพื่อใช้ในการพรางตัว

               โดยแมงมุมนั้นถูกค้นพบแล้วกว่า 40,000 ชนิด และก็ยังมีชนิดใหม่ ๆ ถูกค้นพบเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าจำนวนที่ถูกค้นพบนี้เป็นเพียงแค่ครึ่งเดียวของทั้งหมดที่มีเท่านั้น โดยแมงมุมขนาดเล็กที่สุด พบที่โคลัมเบีย ในทวีปอเมริกาใต้ มีความยาวเพียง 0.4 มิลลิเมตรเท่านั้น และที่ชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ แมงมุมกินนกโกไลแอท มีความยาวลำตัว 12-13 เซนติเมตร หรือขนาด 25-33 เซนติเมตรเลยทีเดียว

              แมงมุมพบได้ในแทบทุกภูมิภาคของโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งในทะเลทรายที่แห้งแล้งและร้อนอบอ้าว หรือในถ้ำลึก หรือภูเขาสูง หรือในน้ำ แต่ทั้งหมดเป็นสัตว์กินเนื้อ

               แมงมุมกินอาหารจำพวก เพลี้ยอ่อน, ตัวหนอน, ผีเสื้อ, แมลงวัน, ยุง, ปลวก, ด้วง, มด เป็นตัน จึงมีความสำคัญในระบบนิเวศทางการเกษตร และระบบนิเวศทั่วไป โดยส่วนใหญ่เมื่อจะล่าเหยื่อจะสร้างใยเพื่อเป็นรังอาศัย และดักเหยื่อ ในขณะที่บางชนิดไม่สร้างใยก็มี ซึ่งก็จะมีการใช้เส้นใยที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละชนิด ขึ้นอยู่กับรูปแบบการอยู่อาศัยของแมงมุมในแต่ละชนิดในพื้นที่นั้น ๆ[2]

อ้างอิง : wikipedia

ตะไคร้




 ตะไคร้

              
                                                                     
                                                                               
         ตะไคร้ (Lemongrass) ชื่อวิทยาศาสตร์ Doragag Staph ชื่อท้องถิ่น จะไคร (ภาคเหนือ) ไคร (ภาคใต้) คาหอม (แม่ฮ่องสอน) เชิดเกรย ,เหลอะเกรย(เขมร-สุรินทร์), ห่อวอตะโป่(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)ขี้ไคร้ (อินดี้-สกา) เป็นพืชล้มลุก ความสูงประมาณ 4-6 ฟุต ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนาม ลำต้นรวมกันเป็นกอ มีกลิ่นหอม ดอกออกเป็นช่อยาวมีดอกเล็กฝอยเป็นจำนวนมาก ตะไคร้เป็นพืชที่สามารถนำส่วนต้นหัวไปประกอบอาหาร และจัดเป็นพืชสมุนไพรด้วย
สรรพคุณของตะไคร้

มีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ
เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้เจริญ (ต้นตะไคร้)
มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร
ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร (ต้น)
สารสกัดจากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคเมะเร็งลำไส้ใหญ่
แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ
ช่วยรักษาอาการไข้ (ใบสด)
ใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ (ราก)
น้ำมันหอมระเหยของใบตะไคร้ สามารถบรรเทาอาการปวดได้
ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบสด)
ใช้เป็นยาแก้อาเจียน หากนำไปใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ (หัวตะไคร้)
ช่่วยแก้อาการกษัยเส้นและแก้ลมใบ (หัวตะไคร้)
รักษาโรคหอบหืด ด้วยการใช้ต้นตะไคร้
ช่วยแก้อาการเสียดแน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก)
ใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้องและอาการท้องเสีย (ราก)
ช่วยแก้และบรรเทาอาการปวดท้อง
ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ (หัวตะไคร้)
ช่วยในการขับน้ำดีมาช่วยในการย่อยอาหาร
น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ มีส่วนช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ได้
มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ
ช่วยแก้อาการปัสสาวะพิการ และรักษาโรคนิ่ว (หัวตะไคร้)
ช่วยแก้อาการขัดเบา (หัวตะไคร้)
ใช้เป็นยาแก้ขับลม (ต้น)
ช่วยรักษาอหิวาตกโรค
ช่วยแก้ลมอัมพาต (หัวตะไคร้)
ใช้เป็นยารักษาเกลื้อน (หัวตะไคร้)
น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ สามารถช่วยต่อต้านเชื้อราบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้โรคหนองใน หากนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ

อ้างอิง : wikipedia

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ผีเสื้อ


ผีเสื้อ



                       
                                                   



ผีเสื้อ อาจหมายถึง

สัตว์
               ผีเสื้อ (แมลง) (butterfly), ชื่อแมลงทุกชนิดในอันดับ Lepidoptera มีปีกเป็นแผ่นบางสองคู่ ลำตัว ปีก และขาปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดเล็กมากคล้ายฝุ่น เมื่อมองด้วยตาเปล่า เกล็ดเหล่านี้ทำให้เกิดสีต่าง ๆ กัน ปากเป็นงวงยาวม้วนเข้าอยู่ใต้หัวได้ มีทั้งชนิดหากินในเวลากลางวัน เรียก ผีเสื้อกลางวัน, พายัพเรียก กะเบ้อ กำเบ้อ ก่ำเบ้อ หรือ อีเบ้อ, และชนิดหากินในเวลากลางคืน เรียก ผีเสื้อกลางคืน, พายัพเรียก แมงกาย
                  -ผีเสื้อยักษ์ (แมลง) (moth), ชื่อผีเสื้อขนาดใหญ่หลายชนิด เช่น ชนิด Attacus atlas ในวงศ์ Saturniidae ตัวเมียเมื่อกางปีก วัดจากขอบปีกหนึ่งถึงอีกขอบปีกหนึ่งยาวได้ถึงยี่สิบเอ็ดถึงยี่สิบห้าเซนติเมตร ลำตัวยาวสี่ถึงห้าเซนติเมตร กว้างหนึ่งเซนติเมตรครึ่งถึงสองเซนติเมตร ลำตัวและอกคลุมด้วยขนสีน้ำตาลแดง ปีกสีน้ำตาลแดง มีลวดลาย โดยเฉพาะบริเวณเกือบกึ่งกลางปีกมีลักษณะบางใสรูปคล้ายใบโพ
               วงศ์ปลาผีเสื้อ (butterflyfish), ชื่อปลาทะเลทุกชนิดในวงศ์ Chaetodontidae ยกเว้นปลาโนรี (Heniochus spp.) ลำตัวสั้น กว้าง แบนข้างมาก ปากเล็ก บางชนิดปากยื่นยาวเป็นท่ออยู่ปลายสุดของหัว เกล็ดสากมือคลุมถึงบนครีบหลัง ครีบก้น และครีบหาง สีสวยสด มักเป็นบั้ง แถบ หรือจุดคละกันหลายสี อาศัยอยู่ตามแนวหินปะการัง ขนาดยาวตั้งแต่สิบถึงสามสิบเซนติเมตร
               

-ผีเสื้อเงิน หรือปลาเฉี่ยวหิน (silver moony), ชื่อปลาทะเลชนิด Monodactylus argenteus ในวงศ์ Monodactylidae ลำตัวสั้นมาก รูปไข่แบนข้าง ครีบหลังและครีบก้นยาวพื้นลำตัวและครีบสีเทาเงิน มีแถบสีดำพาดขวางผ่านตาหนึ่ง แถบและอีกแถบโค้งผ่านแผ่นปิดเหงือกไปยังขอบหน้าของครีบหลังและครีบก้น ขนาดยาวได้ถึงยี่สิบห้าเซนติเมตร อยู่ในน้ำจืดได้, โสร่งแขก ก็เรียก
อ้างอิง : wikipedia.org